ชีวประวัติของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระธรรมสิงหบุราจารย์ ( หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม )

เมื่อสมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ
ฐิตธมฺโม) ดำรงตำแหน่งเป็นพระครูปลัดจรัญ
ฐิตธมฺโม ได้มารักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาส
วัดนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้ดำเนินการพัฒนา
ปรับปรุงฟื้นฟูกิจการทั้งภายใน และภายนอกจนเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาตามลำดับ ในเวลาต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร
“พระครูภาวนาวิสุทธิ์” ในคราววันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
๕ ธันวาคม ๒๕๑๑ ชีวประวัติและผลงานของท่านเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาแด่สาธุชนทั่วไป
ชาติภูมิ
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) เกิดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) เมื่อ ๑๕ สิงหาคม ๒๔๗๑ เวลา ๐๗.๑๐ น. (๔ ฯ ๘ ปีมะโรง) ณ ตำบล
ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เป็นบุตรคนที่ ๕ ในจำนวน ๑๐ คน ซึ่งเกิดจากโยมมารดา เจิม และโยมบิดา แพ จรรยารักษ์
พระเดชพระคุณหลวงพ่ออุปสมบท เมื่อ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๙๑ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ วัดพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โดยมีท่านเจ้าคุณพรหมนคราจารย์ วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูถาวรวิริยคุณ
วัดพุทธาราม เป็นกรรมวาจาจารย์
การศึกษา
พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางโลกและทางธรรม มีความชำนาญเชี่ยวชาญเป็นพิเศษพอจะสรุปแยกสาขาศึกษาได้ดังนี้
สามัญศึกษา ได้ศึกษาจากสถาบันต่างๆ มี
- โรงเรียนประชาบาลวัดศรัทธาภิรมณ์
- โรงเรียนสิงหวิทยายน
- โรงเรียนประจำจังหวัดสิงห์บุรี
- โรงเรียนศิริสุทโธ
- โรงเรียนสุวิทดารามาศ
สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗
ศึกษาดนตรีไทย
ได้ศึกษาดนตรีไทยมีปี่พาทย์มอญ แตรวงเครื่องสาย การประพันธ์บทขับร้อง จากโยมบิดากับคุณหลวงธารา
ต่อมา คุณปู่ พ.ต.หลวงธารา ได้นำพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
เข้าฝากตัวกับจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าศึกษาโรงเรียนนายตำรวจพระเดชพระคุณหลวงพ่อศึกษาอยู่ประมาณ ๑ เดือน
จึงขอลาออกเนื่องจากไม่ถูกอัธยาศัยในวิชานี้
ศึกษาวิชามายาศาสตร์
พระเดชพระคุณหลวงพ่อเริ่มมาสนใจวิชามายาศาสตร์และมายา
สาไถย์ของคนเราเมื่อรู้ดีแล้วก็เอือมระอา มิได้นำวิชานี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและขณะนั้นมีอายุย่างเข้า ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงได้สละจากเพศฆราวาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งบัดนี้
ศึกษาพระธรรมวินัย วิปัสสนากัมมัฏฐาน
- พ.ศ. ๒๔๙๑ ศึกษาพระธรรมวินัย ณ สำนักพรหมบุรี
- พ.ศ. ๒๔๙๒ สอบนักธรรมโทสนามหลวงได้ที่วัดแจ้งพรหมนคร
- พ.ศ. ๒๔๙๓ ศึกษาวิชากัมมัฏฐานกับพระครูนิวาสธรรมขันธ์
(หลวงพ่อเดิม) อ.หนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์
- พ.ศ. ๒๔๙๔ ศึกษาวิชากัมมัฏฐานกับหลวงพ่อลี
และท่านเจ้าคุณอริยคุณาธร จ.ขอนแก่น
- พ.ศ. ๒๔๙๕ ศึกษาการทำเครื่องรางของขลัง, น้ำมันมนต์
กับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่าง จ.อยุธยา และ
พระครูวินิจสุตคุณ, หลวงพ่อสนั่น วัดเสาธงทอง
จ.อ่างทอง, หลวงพ่อจาด วัดบ้านสร้าง จ.ปราจีนฯ
- พ.ศ. ๒๔๙๖ ศึกษาวิชาสมถวิปัสสนา กับพระภาวนาโกศลเถร
(สด จันทสโร) หรือ หลวงพ่อวัดปากน้ำ วัดปากน้ำ
อ.ภาษีเจริญ จ.ธนบุรี
- พ.ศ. ๒๔๙๗ ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานกับ
เจ้าคุณอาจารย์พระราชสิทธิมุนี วัดมหาธาตุ
จ.พระนคร
- พ.ศ. ๒๔๙๘ ศึกษาพระอภิธรรม กับอาจารย์เตชิน (ชาวพม่า)
วัดระฆัง จ.ธนบุรี ศึกษาการพยากรณ์ จาก
สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศฯ จ.พระนคร
ศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้วิทยาศาสตร์ทางจิตกับ
อาจารย์ พ.อ.ชม สุคันธรัต เดินธุดงค์รอนแรม
หาที่สงบ เพื่อจำศีลภาวนา ตามป่าเขาลำเนาไพร
ทางภาคเหนือ ฯลฯ
ตำแหน่งทางคณะสงฆ์
- พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น รักษาการ
เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัด
สิงห์บุรี
- พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น รักษาการ
เจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี
- พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าคณะ
อำเภอพรหมบุรี
- พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์
- พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับพระบัญชาให้ดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าคณะ
จังหวัดสิงห์บุรี
- พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้รับพระบัญชาให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะ
จังหวัดสิงห์บุรี
- พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับพระบัญชาให้ดำรงตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษา
เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี
- พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้รับพระบัญชาให้ดำรงตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษา
เจ้าคณะภาค ๓
สมณศักดิ์
- พ.ศ. ๒๕๐๑ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงฐานานุศักดิ์ที่ พระครู
ปลัดจรัญ ฐิตธมฺโม ฐานานุกรมในพระราชาคณะ
ชั้นสามัญ พระสุนทรธรรมประพุทธ (หล้า สีลวํโส)
เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
- พ.ศ. ๒๕๑๑ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครู
สัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่ ฝ่ายวิปัสสนา
ธุระ พระครูภาวนาวิสุทธิ์
- พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้รับพระบัญชาเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครู
สัญญาบัตร เทียบพระครูสัญญาบัตรผู้ช่วย
พระอารามหลวงชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
ในราชทินนามเดิมที่ พระครูภาวนาวิสุทธิ์
- พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับพระบัญชาเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครู
สัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนา
ธุระ ในราชทินนามเดิมที่ พระครูภาวนาวิสุทธิ์
- พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชา
คณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในราชทินนาม
ที่ พระภาวนาวิสุทธิคุณ
- พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ
ชั้นราชที่ พระราชสุทธิญาณมงคล ศรีพหลนราทร
ธรรมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
- พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ
ชั้นเทพที่ พระเทพสิงหบุราจารย์ ภาวนาวิธานโกศล
วิมลธรรมานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
- พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ
ชั้นธรรมที่ พระธรรมสิงหบุราจารย์ ภาวนา
ปฏิภาณโกศล โสภณธรรมานุสิฐ พิพัฒน์กิจสุนทร
มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
ผลงาน
นับตั้งแต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้มารักษาการในตำแหน่ง
เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ จนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์และมีสิทธิเข้าครองตำแหน่งเจ้าอาวาสโดยสมบูรณ์เมื่อ ๕ ธ.ค. ๒๕๑๑ เป็นระยะเวลายาวนานถึง ๑๑ ปี แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อมิได้
นิ่งนอนใจได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อบริหารงานวัดนี้และช่วยเหลือวัดอื่นๆ
ให้เจริญก้าวหน้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมตามกาลสมัย
พระเดชพระคุณหลวงพ่อเข้าถึงจิตใจคน เป็นนักแสดง (เทศน์) ซาบซึ้ง
ตรึงใจแก่ผู้ได้ฟังธรรม เป็นนักเสี่ยงในการก่อสร้างปฏิสังขรณ์ในเมื่อไม่มีทุนอยู่ในกำมือ, เป็นนักเสียสละทรัพย์สินที่มีอยู่อุทิศเพื่อการกุศล และแจก
เป็นทานให้ลูกศิษย์วัด, นอกจากนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นนักแก้ปัญหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยนิมนต์ภิกษุชาวต่างประเทศมาแสดงธรรมที่วัด แล้วนำจตุปัจจัยที่ได้ชดใช้หนี้โรงไม้, ร้านก่อสร้างต่างๆ บางครั้งแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องไปยืมเงินจากโยมมารดาหรือไม่ก็ญาติพี่น้อง เป็นต้น ด้วยเหตุที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์และวิปัสสนาจารย์
พร้อมกันเสร็จดังนี้ ท่านจึงมีผลงานในทุกๆ ปีมากมาย จนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป อาทิ
พ.ศ. ๒๕๒๖ ได้รับโล่เกียรติคุณนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่นในสาขาสังคมสงเคราะห์อาสาสมัคร ฝ่ายกิจการพระศาสนา
พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตน
ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ
วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ ในฐานะผู้ได้ทำคุณประโยชน์
ต่อพระพุทธศาสนา ด้านส่งเสริมชักชวนให้มาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง
พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้รับมอบเข็มเกียรติคุณ นักพัฒนาดีเด่นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง จาก ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๙
จึงนับได้ว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระธรรมสิงหบุราจารย์
ได้ทุ่มเทชีวิตในการพัฒนาสังคมให้เจริญรุ่งเรือง และเป็นที่พึ่งอันสำคัญ
แก่พุทธศาสนิกชนในเขตท้องถิ่นทั้งใกล้และไกลมาเป็นเวลานาน
แม้กระทั่งวาระสุดท้ายก่อนละสังขารอย่างสงบ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) ที่ปรึกษา
เจ้าคณะภาค ๓ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี และศิษยานุศิษย์
แห่งวัดอัมพวันทุกท่านมีความประสงค์ถวายปัจจัย ร่วมสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา เป็นจำนวนเงิน ๕๐ ล้านบาทถ้วน
เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ใช้เป็นสาธารณประโยชน์แก่โรงพยาบาลศิริราชโดยคณะตัวแทน นำพานมารับเช็คจากมือพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๙
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) มรณภาพ
อย่างสงบ ในวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๘.๓๗ น. ณ โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร

 

ที่มา :  หนังสือชีวประวัติพระธรรมสิงหบุราจารย์ 
( หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม ) ( รหัสวิริยะ 1155 )

http://www.rvpprinting.com/products/view.php?id=8

รูปภาพ
Top